วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

การออกแบบฟ้อน San Serif ภายใต้ชื่อ CRU56 apisit


FONT CRU56 APISIT
การศึกษาข้อมูล Font
1. ความหมายของ Font
Font คือFont เป็นกลุ่มของตัวอักษรข้อมูลที่พิมพ์ได้ หรือแสดงผลได้ที่กำหนดแบบและขนาด ประเภทการออกแบบสำหรับชุด font คือ typeface และการแปรผันของการออกเพื่อสร้างเป็น typeface family เช่น Helvetica เป็น typeface family, Helvetica italic เป็น typeface และ Helvetica italic 10-piont คือ font ในทางปฏิบัติ font และ typeface ใช้โดยไม่เน้นความแม่นยำ outline font เป็น ซอฟต์แวร์ typeface ที่สามารถสร้างช่วงขนาดของฟอนต์ bitmap font เป็นการนำเสนอแบบดิจิตอลของฟอนต์ที่มีขนาดตายตัว หรือจำกัดกลุ่มของขนาด ซอฟต์แวร์ outline font ที่นิยมมาก 2 โปรแกรมปัจจุบัน คือ true type และ adobe's type 1โดยฟอนต์ true type มากับระบบการ Windows และ Macintosh ส่วน type 1 เป็นมาตรฐาน outline font (ISO 9541) ทั้งฟอนต์ true type และ type 1 สามารถใช้กับเครื่องพิมพ์ adobe's postscript (ถึงแม้ว่า) adobe พูดว่าฟอนต์ type 1 สามารถใช้ได้เต็มที่กับภาษา post script
            1.1 ความแตกต่างของไทป์เฟซกับฟอนต์ บุคคลทั่วไปมักใช้คำว่า ฟอนต์ (font/fount) เรียกแทนไทป์เฟซ หรือใช้เรียกสลับกัน แต่ในความจริงแล้วมีความหมายที่แตกต่างกัน ไทป์เฟซหมายถึงชุดตัวอักษรที่มีรูปแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่เล็กเท่าไร เช่น Arial, Arial Bold, Arial Italic และ Arial Bold Italic ต่างเป็นไทป์เฟซคนละชนิดกัน ส่วนฟอนต์จะหมายถึงชุดตัวอักษรที่มีทั้งไทป์เฟซและขนาดเดียวกัน ตัวอย่างเช่น Arial 12 พอยต์ก็เป็นฟอนต์หนึ่ง Arial 14 พอยต์ก็เป็นฟอนต์หนึ่ง Arial Bold 14 พอยต์ก็เป็นอีกฟอนต์หนึ่ง เป็นต้น ในการสร้างเอกสารแบบดิจิทัล ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนขนาดฟอนต์ได้เองในคอมพิวเตอร์ ทำให้ความแตกต่างของไทป์เฟซกับฟอนต์จึงลดความสำคัญลงไป สำหรับตระกูลหรือสกุลของตัวอักษร (font/type family) มีความหมายกว้างกว่าไทป์เฟซ กล่าวคือ แบบตัวอักษรชื่อเดียวกันที่อาจมีรูปแบบต่างๆ กัน ถือเป็นแบบอักษรตระกูลเดียวกัน โดยปกติจะมี 4 รูปแบบคือ roman, italic, bold, bold italic แบบอักษรบางตระกูลอาจมี narrow, condensed หรือ black อยู่ด้วยก็ได้ ดังนั้น Arial, Arial Bold, Arial Italic และ Arial Bold Italic ทั้งหมดเป็นแบบอักษรในตระกูล Arial ในขณะที่ Helvetica หรือ Courier ก็เป็นอีกตระกูลหนึ่ง ลักษณะทั่วไป เชิงอักษรไทป์เฟซสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ แบบมีเชิง (serif) และแบบไม่มีเชิง (sans serif) แบบเซริฟคือแบบอักษรที่มีขีดเล็กๆ อยู่ที่ปลายอักษรเรียกว่า เซริฟ ดังที่ปรากฏในตัวอักษรตระกูล Times แบบอักษรชนิดนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแบบโรมัน (roman) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากอักษรที่จารึกไว้ในหินของอาณาจักรโรมัน เซริฟมีส่วนช่วยในการกวาดสายตาไปตามตัวอักษร ทำให้อ่านง่าย และนิยมใช้สำหรับพิมพ์เนื้อความ ส่วนแบบซานส์เซริฟก็มีความหมายตรงข้ามกันคือไม่มีขีดที่ปลายอักษร และมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าแบบกอทิก (gothic) อักษรชนิดนี้ไม่เหมาะกับการเป็นเนื้อความ แต่เหมาะสำหรับใช้พาดหัวหรือหัวเรื่องที่เป็นจุดเด่นซึ่งมองเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม ฟอนต์สมัยใหม่ที่ได้รับการออกแบบในคอมพิวเตอร์ อาจมีทั้งแบบเซริฟและซานส์เซริฟปะปนกันในฟอนต์หนึ่งๆ ความกว้างอักษรหากจะแบ่งประเภทตามความกว้างของอักษร สามารถแบ่งได้สองแบบคือ แบบกว้างตามสัดส่วน (proportional) และแบบกว้างขนาดเดียว (monospaced) ผู้คนส่วนมากนิยมไทป์เฟซแบบกว้างตามสัดส่วน ซึ่งความกว้างอักษรจะแปรผันไปตามความกว้างจริงของรูปอักขระ เนื่องจากดูเหมาะสมและอ่านง่าย แบบอักษรประเภทนี้พบได้ทั่วไปตามสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมไปถึง GUI ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (อาทิโปรแกรมประมวลคำหรือเว็บเบราว์เซอร์) แต่ถึงกระนั้น รูปอักขระที่ใช้แทนตัวเลขในหลายไทป์เฟซมักออกแบบให้มีความกว้างเท่ากันหมด เพื่อให้สามารถจัดเรียงได้ตรงตามคอลัมน์ ส่วนไทป์เฟซแบบกว้างขนาดเดียวเป็นการออกแบบที่มีจุดประสงค์เฉพาะ มีความกว้างอักษรเท่ากันหมดไม่ขึ้นอยู่กับรูปอักขระ คล้ายอักษรที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ดีดซึ่งมีคอลัมน์ของตัวอักษรตรงกันเสมอ แบบอักษรชนิดนี้มีที่ใช้ในระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์บางชนิดเช่น DOS, Unix และเป็นที่นิยมในหมู่โปรแกรมเมอร์สำหรับแก้ไขซอร์สโคด ศิลปะแอสกี (ASCII Art) เป็นตัวอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้อักษรแบบกว้างขนาดเดียวเพื่อการแสดงผลที่สมบูรณ์ ถ้าหากพิมพ์ตัวอักษรสองบรรทัดด้วยจำนวนอักษรที่เท่ากันในแต่ละบรรทัด ไทป์เฟซแบบกว้างขนาดเดียวเราจะเห็นความกว้างทั้งสองบรรทัดเท่ากัน ในขณะที่แบบกว้างตามสัดส่วนจะกว้างไม่เท่ากัน และอาจไม่กว้างเท่าเดิมเมื่อเปลี่ยนไทป์เฟซ เนื่องจากรูปอักขระกว้างเช่น W, Q, Z, M, D, O, H, U ใช้เนื้อที่มากกว่า และรูปอักขระแคบเช่น i, t, l, 1 ใช้เนื้อที่น้อยกว่าความกว้างเฉลี่ยของอักษรอื่นในไทป์เฟซนั้นๆ การวัดขนาดฟอนต์ขนาดของไทป์เฟซและฟอนต์ในงานพิมพ์ โดยปกติจะวัดในหน่วย พอยต์ (point) ซึ่งหน่วยนี้ได้กำหนดขนาดไว้แตกต่างกันในหลายยุคหลายสมัย แต่หน่วยพอยต์ที่แท้จริงนั้นมีขนาดเท่ากับ 172 นิ้ว สำหรับการออกแบบอักษร จะวัดด้วยหน่วย เอ็ม-สแควร์(em-square) เป็นหน่วยที่สัมพันธ์กับฟอนต์ขนาดนั้นๆ โดยหมายถึงความสูงที่สูงกว่าเล็กน้อยตั้งแต่ยอดปลายหางอักษรที่ชี้ขึ้นบน ลงไปถึงสุดปลายหางอักษรที่ชี้ลงล่างของฟอนต์นั้นๆ เอง ซึ่งเท่ากับความสูงของตัวพิมพ์ในงานพิมพ์ หรืออาจสามารถวัดได้ในหน่วยมิลลิเมตร คิว (¼ ของมิลลิเมตร) ไพคา (12 พอยต์) หรือเป็นนิ้วก็ได้

         1.2  ชนิดตัวอักษร Type Style ก่อนที่จะลงมือนำตัวอักษรมาใช้ในเว็บไซต์ของเรานั้น ชนิดของตัวอักษร หรือตัวหนังสือเป็นสิ่งแรกที่เราต้องทำความรู้จักเสียก่อน ซึ่งชนิดของตัวอักษรนั้น ส่วนใหญ่ที่เรารู้จักกัน นั่นก็คือ ฟอนต์ ( Font) นั่นเอง ชนิดของตัวอักษรนั้น เราแบ่งตามที่เราทำงานกันอยู่ทุกวันเป็นหลัก โดยแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ อักษรภาษาอังกฤษ กับอักษรภาษาไทยตัวอักษรภาษาอังกฤษ English Letterปฏิเสธไม่ได้เลยว่างานออกแบบกราฟิกที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เต็มไปด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนไทยก็ตาม แต่เราก็นิยมนำภาษาอังกฤษมาใช้ในเว็บไซต์ของเราเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ใช้ในการออกแบบนั้นมี
            1.2.1 Serif หรือตัวอักษรแบบโรมัน หรือบางคนก็เรียกว่าแบบ โบราณ Tradition old style ซึ่งจุดเด่น ของตัวอักษรแบบนี้คือ การที่ตัวอักษรมีหัว มีเท้า ตัวอักษรมีความหนาบางไม่ต่างกันนัก  ตัวอักษรแบบนี้ ให้ความรู้สึก ถึงความเก่าความลังจึงมักจะใช้กับงานที่เป็นทางการ กึ่งไปทางพิธีรีตรอง หรือเรื่องราวในเชิงอนุรักษ์นิยม ถ้าเป็นงานสิ่งพิมพ์จำพวกหนังสือ ก็มักจะใช้เป็นตัวพาดหัวเรื่องมากกว่าจะเป็นเนื้อหาให้อ่าน
            1.2.2 San Serif    หรือตัวอักษรแบบ Gothic เป็นตัวอักษรที่มีพื้นฐานมาจากแบบ Serif แต่ดัดแปลงเอาหัวและเท้าออก ให้ดูเรียบ ให้ความรู้สึกถึงความทันสมัยกว่าแบบแรก ตัวอักษรมีความหนาบาง ไม่ต่างกันนัก ตัวอักษรแบบ San Serif เป็นตัวอักษรที่ได้รับความนิยมในการออกแบบเป็นอย่างมาก เพราะดูเรียบง่าย ทันสมัย เหมาะกับการนำไปใช้ออกแบบหลายชนิด และในหนังสือมักจะนิยม

ใช้ตัวอักษรแบบนี้วางเป็นเนื้อหาให้อ่าน เพราะมีรูปร่างที่อ่านง่ายใช้ตัวอักษรแบบนี้วางเป็นเนื้อหาให้อ่าน เพราะมีรูปร่างที่อ่านง่าย
1.2.3 Script   เป็นตัวอักษรที่เลียนแบบลายมือ ตัวเขียน ตัวอักษรมีความหนาบางทั้งแบบพอๆ กัน เหมือนเขียนด้วยตัวอักษรดินสอ และต่างกันเหมือนเราเอาปากกาคอแร้งเขียนตัวหนังสือ ตัวอักษรชนิดนี้ให้ความรู้สึกไม่เป็นทางการอิสระเส้นสายของตัวอักษรให้ความรู้สึกสนุกสนานไร้กฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัว จึงมีงานไม่น้อยเลยทีเดียวที่ใช้ตัวอักษรแบบนี้ กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น และที่สำคัญในการทำงานสิ่งพิมพ์เราจะไม่ใช้ตัวอักษรแบบนี้เป็นตัวหนังสือให้อ่านเพราะจะทำให้อ่านลำบาก เมื่อมีจำนวนมาก ยกเว้นจะใช้เป็นหัวเรื่อง

            1.2.4 Display Type หรือตัวประดิษฐ์ เป็นตัวอักษรที่ ได้รับการตกแต่งให้โดดเด่น บางตัวก็เป็นภาสัญลักษณ์ซึ่งเราสามารถนำมาประกอบใช้ในงานได้เช่นกัน ตัวอักษรแบบนี้มีรูปแบบที่หลากหลาย ยากที่จะจำกัดความ การเลือกใช้ก็สุดแล้วแต่นักออกแบบจะเอาไปใช้ในงานอะไร เพราะแต่ละแบบแต่ละชนิดก็ให้อารมณ์ ความรู้สึก และการสื่อความหมายที่แตกต่างกันออกไป


1.3 ตัวอักษรภาษาไทย Thai Letterตัวอักษรที่เป็นภาษาไทยอาจจะจัดวางยากกว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่บ้าง เนื่องจากมีสระและวรรณยุกต์ ซึ่งบางครั้งก็ยุ่งยากในการจัดวางให้ลงตัว หรือให้ดูสวยงาม โดยตัวอักษรภาษาไทยแบ่งออกเป็นหลายชนิด              
            1.3.1 แบบดั้งเดิม เป็นแบบมีหัวเป็นแบบที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด ซึ่งหัวของตัวอักษรนี้ที่เป็นเอกลักษณ์ของภาษาไทยเราตัวอักษรแบบนี้ แสดงความเป็นทางการคล้ายๆ กับ Serif ของภาษาอังกฤษ คือเป็นตัวอักษรที่มีหัว นอกจากนี้ยังเป็นตัวที่เราคุ้นเคยและอ่านออกง่าย ตัวอักษรแบบนี้จึงนำมาจัดวางเป็นเนื้อหาในงานสิ่งพิมพ์


1.3.2 แบบหัวตัด เป็นแบบที่ไม่มีหัว เป็นตัวอักษรที่ดัดแปลงมาจากแบบมีหัวโดยตัดหัวออก เหมือนเขียนด้วยปากกาคอแร้งตัวอักษรแบบนี้ให้อารมณ์ ความรู้สึก ถึงความทันสมัย ซึ่งจะเหมือนกันแบบ San Serif ของตัวอักษรในภาษาอังกฤษ จึงมักจะใช้ตัวอักษรนี้กับงานที่ดูร่วมสมัยและเป็นสากลมากกว่า

1.3.3 แบบลายมือ แบบลายมือจะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ ตัวอักษรแบบนี้เหมาะที่จะใช้กับงานที่ไม่เป็นทางการ อิสระ ดูสนุกสนาน และไร้กฎเกณฑ์ เปรียบได้กับตัวอักษรแบบ Script ของตัวอักษรภาษาอังกฤษ

1.3.4 แบบคัดลายมือ หรือเรียกกันว่าแบบอาลักษณ์ เป็นแบบที่เกิดจากการคัดลายมือ ด้วยปลายปากกา ลักษณะจะมีหัวแหลม เช่น ปากกาขนนก ตัวอักษรแบบนี้แสดงความเป็นทางการ และให้ความรู้สึกถึงพิธีรีตอง แบบไทยๆ นอกจากนี้ตัวอักษรยังให้ความรู้สึกถึงความเคารพ และให้เกียรติกัน จึงไม่น่าแปลกถ้าเราจะเห็นตัวอักษรแบบนี้ ปรากฏอยู่ในการ์ดเชิญและในงานมงคลต่างๆ

1.3.5 แบบประดิษฐ์  เป็นตัวอักษรที่ดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับงานต่างๆ ที่จะออกแบบ ทั้งนี้ยังต้องคงความสะดุดตาน่าสนใจตัวอักษรที่เป็นแบบประดิษฐ์ให้ความรู้สึกที่หลากหลาย สุดแล้วแต่เราจะเลือกแบบไหนมาจัดวาง เพื่อให้กลมกลืนและสื่อความหมายในงานออกแบบของเรา ตัวอักษรแบบนี้ก็เหมือน Display Type ของตัวอักษรภาษาอังกฤษ นอกจากฟอนต์ที่เราได้รู้จักกันไปแล้ว ต่อไปมาทำความรู้จักกับ บุคลิก (Character) ต่างๆ ของตัวอักษรกันบ้าง



วิธีการดำเนินงานการออกแบบฟ้อนต์ CRU56 APISIT

2. ขั้นตอนการออกแบบ

โหลดโปรแกรม Fontlab และ Adobe Illustrator

Fontlab



Adobe Illustrator

2.1 ออกแบบฟ้อนต์ด้วยโปรแกรม  Adobe Illustrator และ Fontlab   

2.1.1โครงสร้างของที่เราออกแบบโดยโปรแกรม Adobe Illustrator


2.2 และนำฟ้อนที่ออกแบบมาจัดโครงสร้างให้ได้สัดส่วน



 2.3 เมื่อจัดสัดส่วนของฟ้อนต์ที่ออกแบบได้สัดส่วนที่ต้องการแล้ว เปิดโปรแกรม Fontlab
แล้วกด File + Open + Installled Font กดเลือกไปที่ CRU lanchand 56


2.4 เมื่อไฟล์ขึ้นมา กด ไปที่ Ctrl + A ครอบฟ้อนทั้งหมด


2.5 เมื่อครอบฟ้อนต์ทั้งหมด แล้ว กด Tools + Backgroud + Create­



2.6 เมื่อขึ้น Create­ Backgroud จะขึ้นเป็นโครงสร้าง CRU Lanchand 56 เพื่อเป็น Guide line ในการจัดวางตัวอัการที่เรานำมาออกแบบ


2.7 เมื่อขึ้น Guide line แล้ว ไปที่โปรแกรม Adobe Illustrator  กด Copy ตัวงานที่เราได้ออกแบบไว้มาPase ลง โปรแกรม Fontlab ลงใน รหัสยูนิโคดของฟ้อนต์ให้ถูกต้อง



2.8 เมื่อวางฟ้อนต์ที่เราได้ออกแบบไว้ลงใน โปรแกรม Fontlab ลงใน รหัสยูนิโคดของฟ้อนต์ครบแล้วกด ไปที่ Ctrl + A ครอบฟ้อนทั้งหมด แล้วกด Contour + Transform + Merge Contours เมื่อกดแล้วเส้นที่แยกออกจากกันจะรวมกัน


2.9 เมื่อ Merge Contours ครบแล้ว กดไปที่ Tools + Quick Test As + OpenTypeTT เพื่อ TestFont ที่เราได้ออกแบบไว้จนเสร็จเพื่อจะมาปรับแก้ไขระยะให้ได้สัดส่วนที่ถูกต้องตามต้องการ


2.10 เมื่อได้สัดส่วนที่ต้องการแล้วเมื่อเราอยากได้ฟ้อนต์ที่เราออกแบบแล้วมาทำเป็นฟ้อนitalic
กดไปที่ Tools + actions + Contour + Slant แล้วปรับค่า Slant angle เป็น 9% แล้วกดไปที่ Slant to the right (เอียงไปด้านขวา) Slant to the left (เอียงไปด้านซ้าย) เมื่อคลิก Slant to theright  ฟ้อนของเราจะเอียงไปทางด้านขวา9%



2.11 เมื่อเราพอใจกับฟ้อนต์เราแล้ววิธีการที่จะนำฟ้อนต์ของเรานำไปใช้ กดไปที่ File + Generete Font แล้วกดตัวเลือกไปที่ True Type Opentype TT (ttf)



2.12 เมื่อกดตัวเลือกไปที่ True Type Opentype TT (ttf) จะขึ้นเป็นไฟล์ TTFที่สามารถติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์ของเราได้พร้อมใช้งาน


Font CRU56 APISIT ที่ออกแบบเสร็จเรียบร้อย



 นำFont CRU56 APISIT มาทำเป็นโลโก้ต่างๆ





วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561

Gift on the moon 2018



รายงานการออกแบบพัฒนาตัวอักษร 
สำหรับงาน  Gift on the moon 2018 
 วิชา การออกแบบตัวอักษรเพื่อการพิมพ์




โดย
นายอภิสิทธิ์  แสงกุดเรือ รหัสนักศึกษา 5511302688
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
เสนอ
ผ.ศ.ประชิด ทิณบุตร สาขาวิชาศิลปกรรม(ออกแบบนิเทศศิลป์)
ภาควิชามนุษยศาสตร์
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
การออกแบบ Sticky sticke

ส.1(กรณีศึกษาเรียนรู้)­
ประเภทของ Sticker
1.       สติ๊กเกอร์กระดาษ Paper stickerสติ๊กเกอร์ชนิดนี้ เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะเนื่องจากมีราคาถูกกว่าสติ๊กเกอร์ชนิดอื่นๆ เหมาะสำหรับนำไปใช้งานประเภทติดกับวัสดุที่ไม่ต้องระวังการเปียกหรือโดนน้ำ และใช้ติดฉลากสินค้าทั่วๆ ไป เช่น สติ๊กเกอร์บาร์โคด สติ๊กเกอร์บอกวันหมดอายุ สติ๊กเกอร์ติดผลไม้ เป็นต้น สติ๊กเกอร์กระดาษมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด อาทิ สติ๊กเกอร์กระดาษขาวเงา สติ๊กเกอร์กระดาษขาวด้าน สติ๊กเกอร์กระดาษเงินเงา สติ๊กเกอร์กระดาษทองเงา และสติ๊กเกอร์กระดาษอื่นๆ อีกมากมาย คุณสมบัติ สามารถเปียกหรือโดนน้ำได้ประมาณ 40% (ไม่ได้โดนโดยตรง แต่ถ้าเคลือบลามิเนต สามารถที่จะโดนได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ถึง 100% ดีนัก) และทนความร้อนได้ประมาณ 90 องศาเซลเซียส การพิมพ์ จะพิมพ์ในระบบเลสเตอร์เพรสและโรตารี่ พร้อมไดคัทขึ้นรูป สามารถแกะออกง่าย เพราะมีช่องว่างระหว่างดวง มีแบบเป็นแผ่นและม้วน สำหรับแบบม้วน สามารถใส่เครื่องติดสินค้าได้เลยทันที และยังสามารถเพิ่มความสวยงาม โดยการเคลือบยูวีเงา ลามิเนตเงา ลามิเนตด้าน ลามิเนตด้านบวกสปอตยูวี ปั๊มเคเงิน ปั๊มเคทอง หรือปั๊มนูนตามแบบ 2.       สติ๊กเกอร์พีวีซี Pvc stickerสติ๊กเกอร์ชนิดนี้ มีความคงทน จึงนิยมใช้กับงานประเภทที่ต้องเปียกหรือโดนน้ำ ตากฝนและโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน แต่ราคาจะแพงกว่าสติ๊กเกอร์กระดาษ เหมาะสำหรับนำไปใช้งานประเภทติดฉลากสินค้าทั่วๆ ไป เช่น สติ๊กเกอร์โลโก้ สติ๊กเกอร์เครื่องใช้ไฟฟ้า สติ๊กเกอร์แกลอนน้ำมัน สติ๊กเกอร์ถังน้ำมัน สติ๊กเกอร์ติดแก้วน้ำ สติ๊กเกอร์ติดกระจกรถยนต์ สติ๊กเกอร์ติดโฆษณาอื่นๆ เป็นต้น
 สติ๊กเกอร์พีวีซีมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด อาทิ สติ๊กเกอร์พีวิซีใส สติ๊กเกอร์พีวีซีขาวเงา สติดเกอร์พีวีซีขาวนวล สติ๊กเกอร์พีวีซีกาวเหนียวพิเศษ และสติ๊กเกอร์พีวีซีอื่นๆ อีกมากมาย คุณสมบัติ สามารถเปียกหรือโดนน้ำได้ 100% และทนความร้อนได้ประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส แต่ถ้าโดนความร้อนมากกว่า 40 องศาเซลเซียส สติ๊กเกอร์อาจจะเริ่มหัดตัวและเกิดรอยย่นได้ การพิมพ์ จะพิมพ์ในระบบเลสเตอร์เพรสและโรตารี่ พร้อมไดคัทขึ้นรูป สามารถแกะออกง่าย เพราะมีช่องว่างระหว่างดวง มีแบบเป็นแผ่นและม้วน สำหรับแบบม้วน สามารถใส่เครื่องติดสินค้าได้เลยทันที และยังสามารถเพิ่มความสวยงาม โดยการเคลือบยูวีเงา แต่ถ้าต้องการสติ๊กเกอร์แบบด้าน ควรใช้วัสดุเป็นแบบพีพีด้านแทนพีวีซีน่าจะดีกว่า หรือจะเคลือบลามิเนตบวกสปอตยูวี ปั๊มเคเงิน ปั๊มเคทอง พร้อมไดคัท ก็สามารถทำตามแบบที่ต้องการได้ 3.       สติ๊กเกอร์พีพี PP stickerสติ๊กเกอร์ชนิดนี้ มีความคงทนและเหมาะกับงานที่ต้องเปียกน้ำหรือโดนน้ำได้มากยิ่งกว่าสติ๊กเกอร์พีวีซีหลายเท่า แต่ราคาก็จะแพงกว่าสติ๊กเกอร์พีวีซีด้วยเช่นกัน ที่แพงกว่าเพราะสติ๊กเกอร์ชนิดนี้มีความเรียบเนียนและสวยงามกว่าสติ๊กเกอร์ทั่วๆ ไป เหมาะสำหรับนำไปใช้งานประเภทติดฉลากสินค้าทั่วๆ ไป เช่น สติ๊กเกอร์ติดขวดครีมทาหน้า สติ๊กเกอร์ติดขวดแชมพู สติ๊กเกอร์ติดขวดครีมนวด เป็นต้น สติ๊กเกอร์พีพีมีที่นิยมใช้มีอยู่ 3 ชนิด คือ สติ๊กเกอร์พีพีใส สติ๊กเกอร์พีพีขาวเงา และสติ๊กเกอร์พีพีด้าน คุณสมบัติ สามารถเปียกหรือโดนน้ำได้ 100% และทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส การพิมพ์ จะพิมพ์ในระบบเลสเตอร์เพรสและโรตารี่ พร้อมไดคัทขึ้นรูป สามารถแกะออกง่าย เพราะมีช่องว่างระหว่างดวง มีแบบเป็นแผ่นและม้วน สำหรับแบบม้วน สามารถใส่เครื่องติดสินค้าได้เลยทันที และยังสามารถเพิ่มความสวยงาม โดยการเคลือบยูวีเงา แต่ถ้าต้องการสติ๊กเกอร์แบบด้าน ควรใช้วัสดุเป็นแบบพีพีด้านแทนพีวีซีน่าจะดีกว่า หรือจะเคลือบลามิเนตบวกสปอตยูวี ปั๊มเคเงิน ปั๊มเคทอง พร้อมไดคัท ก็สามารถทำตามแบบที่ต้องการได้ 4.       สติ๊กเกอร์พีอีที Pet stickerสติ๊กเกอร์ชนิดนี้ มีความคงทนต่อความร้อนได้เป็นอย่างดี จึงนิยมใช้กับงานประเภทที่เกี่ยวข้องกับความร้อน แต่ราคาก็แพงกว่าสติ๊กเกอร์ทั่วๆ ไปอยู่พอสมควร เหมาะสำหรับนำไปใช้งานประเภทติดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอุณหภูมิสูง หรือใช้ติดฉลากสินค้าทั่วๆ ไปที่มีอุณหภูมิสูงหรือต้องทนต่อความร้อนและน้ำ คุณสมบัติ สามารถเปียกหรือโดนน้ำได้ 100% และทนความร้อนได้ประมาณ 140-200 องศาเซลเซียส การพิมพ์ จะพิมพ์ในระบบเลสเตอร์เพรสและโรตารี่ พร้อมไดคัทขึ้นรูป สามารถแกะออกง่าย เพราะมีช่องว่างระหว่างดวง มีแบบเป็นแผ่นและม้วน สำหรับแบบม้วน สามารถใส่เครื่องติดสินค้าได้เลยทันที และยังสามารถเพิ่มความสวยงาม โดยการเคลือบยูวีเงา หรือปั๊มเคเงิน ปั๊มเคทอง พร้อมไดคัท ก็สามารถทำตามแบบที่ต้องการได้ แต่สติ๊กเกอร์ชนิดนี้จะไม่นิยมคลือบลามิเนต 5.       สติ๊กเกอร์กันปลอม สติ๊กเกอร์ชนิดนี้ นิยมนำมาใช้ในสินค้าที่มีราคาสูง แต่ราคาก็แพงสูงตามด้วยเช่นกัน เช่น สติ๊กเกอร์ Void กันปลอมสีเงินเงาและเงินด้านไม่มีลาย สติ๊กเกอร์กันปลอมลายเลเซอร์ “void if remove” เป็นต้น คุณสมบัติ สามารถเปียกหรือโดนน้ำและทนต่อความร้อนได้ 100% แต่ที่พิเศษ คือ สติ๊กเกอร์ชนิดนี้ เมื่อเวลาลอกออก จะยังคงทิ้งคราบของลายตัวอักษรไว้ เวลาโดนแสงไฟส่อง จะมองเห็นเป็นสีรุ้งๆ 6.       สติ๊กเกอร์สุญญากาศสติ๊กเกอร์ชนิดนี้ นิยมนำมาใช้ติดกับกระจกรถยนต์ หรือเหมาะสำหรับใช้งานประเภทอื่นๆ เช่น บัตรอนุญาตจอดรถ ติดกระจกเพื่อโฆษณาทั่วๆ ไป เป็นต้นคุณสมบัติ สามารถเปียกหรือโดนน้ำได้ แต่ส่วนมากจะไม่นำเอาไปติดมนสถานที่โดนน้ำ และทนความร้อนได้ประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส การพิมพ์ จะพิมพ์ในระบบเลสเตอร์เพรสและโรตารี่ พร้อมไดคัทขึ้นรูป สามารถแกะออกง่าย เพราะมีช่องว่างระหว่างดวง มีแบบเป็นแผ่นและม้วน สำหรับแบบม้วน สามารถใส่เครื่องติดสินค้าได้เลยทันที และยังสามารถเพิ่มความสวยงาม พร้อมไดคัท ก็สามารถทำตามแบบที่ต้องการได้ แต่สติ๊กเกอร์ชนิดนี้จะไม่นิยมนำไปเคลือบ


ส.2(สร้างสรรค์ตามสมมติฐาน)

แนวคิดการออกแบบ เป็นการออกแบบที่นำภาพยี่ห้อต่างมาเสนอเป็นชื่อ CHANKASEM และ CRU และสัญลักษณ์ต่างที่ทุกคนเห็นจนชิดตามาดัดแปลงใช้ให้ชื่อเป็นมหาวิทยาลัย  
 



 ส.3(สรุปผล)

 






รายงานการขาย        
ราคาสติ๊กเกอร์ ราคา 15 บาท ต่อ 1ชิ้น
ต้นทุน 500 บาท
วันที่1 สติ๊กเกอร์ 40 ชิ้น - ยอดขาย 21 ชิ้น เป็นเงิน 315 บาท
วันที่2 สติ๊กเกอร์ 40 ชิ้น - ยอดขาย 18 ชิ้น เป็นเงิน 270 บาท
วันที่3 -สติ๊กเกอร์ 40 ชิ้น - ยอดขาย 25 ชิ้น เป็นเงิน 375 บาท
กำไร 460 บาท

 ภาพบรรยากาศการขายทั้ง3วัน